30 อินดิเคเตอร์ยอดนิยมที่ใช้ในการเทรด Forex
การเทรด Forex เป็นการซื้อขายสกุลเงินต่าง ๆ กันที่ตลาดเงินต่างประเทศ และการใช้เครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์และตัดสินใจสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร อินดิเคเตอร์หรือตัวชี้วัดทางเทคนิคนั้นเป็นเครื่องมือที่สำคัญและได้รับความนิยมมากในวงการเทรด Forex ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาอธิบายแต่ละชนิดของอินดิเคเตอร์เหล่านี้อย่างย่อ เพื่อให้คุณเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น:
8 indicator น่าใช้ในการเทรด forex
1. Moving Average (MA):
คือเครื่องมือที่ใช้สำหรับคำนวณค่าเฉลี่ยของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น MA 200 จะเป็นการคำนวณค่าเฉลี่ยราคาในช่วง 200 วันที่ผ่านมา อินดิเคเตอร์ชนิดนี้ช่วยให้เราสามารถรับรู้เทรนด์ของตลาดได้ง่ายขึ้น
2. Relative Strength Index (RSI):
เป็นตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ใช้วัดความสามารถของการขึ้นหรือลงของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด อินดิเคเตอร์ RSI มีช่วงค่าตั้งแต่ 0 ถึง 100 โดยมักใช้ค่า 70 หรือ 30 เป็นระดับสำคัญ เมื่อ RSI อยู่ในช่วง 70-100 แสดงถึงการซื้อสูงมาก ในขณะที่ RSI อยู่ในช่วง 0-30 แสดงถึงการขายสูงมาก
3. Stochastic Oscillator:
เครื่องมือนี้ใช้วัดความสัมพันธ์ระหว่างราคาปัจจุบันกับราคาต่ำสุดและราคาสูงสุดในช่วงเวลาที่กำหนด ช่วยให้เราสามารถระบุเมื่อตลาดอยู่ในสภาวะที่ราคามีแนวโน้มเกินไป (overbought) หรือมีแนวโน้มตกลงเกินไป (oversold)
4. Bollinger Bands:
เป็นช่องทางที่ใช้วัดความเสถียรของราคา โดยการคำนวณในการสร้างเส้นเอียงสองเส้นที่อยู่ระหว่างค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ช่วยให้เราเห็นความผันผวนของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด
5. MACD (Moving Average Convergence Divergence): เครื่องมือนี้ช่วยให้เราสามารถตรวจสอบความแตกต่างระหว่างเส้นเครื่องหมายระหว่างสมบัติเคลื่อนที่เฉลี่ยของราคาในช่วงเวลาสั้นและยาว ช่วยให้เราตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงในแนวโน้มของตลาด
6. Fibonacci Retracement: เครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้วัดระดับการเคลื่อนที่ของราคาหลังจากมีการเคลื่อนที่ขาขึ้นหรือขาลง โดยใช้ระดับต่ำสุดและสูงสุดของการเคลื่อนที่ก่อนหน้า เราสามารถใช้เครื่องมือนี้ในการระบุระดับการแก้ไขราคาที่เป็นไปได้
7. Ichimoku Cloud: เป็นอินดิเคเตอร์ที่ประกอบด้วยหลายเส้นที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์เทรนด์ ไอชิโมกุคลาวด์ช่วยให้เราสามารถระบุเทรนด์ของตลาดได้ง่ายขึ้น และให้ข้อมูลเกี่ยวกับระดับการสนับสนุนและความต้านทาน
8. Parabolic SAR (Stop and Reverse): เครื่องมือนี้ช่วยในการระบุจุดหมุนกลับของราคา โดยใช้จุดสูงสุดและจุดต่ำสุดในแต่ละราคา
9. Average True Range (ATR): เครื่องมือนี้ช่วยในการวัดความผันผวนของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด ใช้ในการปรับขนาดของการสั่นสะเทือนและการวางเป้าหมายของการเข้าทำสัญญาซื้อขาย
10. ADX (Average Directional Index): เครื่องมือนี้ใช้วัดความเข้มของเทรนด์ และช่วยให้เรารับรู้ว่าตลาดอยู่ในสภาวะแนวโน้มเดี่ยวต่อหรือแบ่งตัว
11. RVI (Relative Vigor Index): เป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้วัดความแรงของแนวโน้มในการซื้อขาย ช่วยในการระบุความเข้มของการเคลื่อนที่ราคา
12. CCI (Commodity Channel Index): เครื่องมือนี้ช่วยในการวัดความแตกต่างของราคาจากค่าเฉลี่ยสำหรับช่วงเวลาที่กำหนด ช่วยในการระบุเทรนด์และการแก้ไขราคาที่เป็นไปได้
13. Volume Weighted Average Price (VWAP): เครื่องมือนี้ใช้คำนวณค่าเฉลี่ยของราคาที่ถูกซื้อขายในช่วงเวลาที่กำหนด
ช่วยให้เราเห็นความสัมพันธ์ระหว่างราคาและปริมาณการซื้อขาย
14. Williams %R: เป็นตัวชี้วัดที่ใช้วัดความสามารถของการขึ้นหรือลงของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด ช่วยให้เราระบุเมื่อตลาดอยู่ในสภาวะที่ราคามีแนวโน้มเกินไป (overbought) หรือมีแนวโน้มตกลงเกินไป (oversold)
15. Fibonacci Extension: เครื่องมือนี้ใช้ในการระบุระดับราคาที่เป็นไปได้ในกรณีที่ตลาดเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกันกับการเคลื่อนที่ก่อนหน้า
16. ATR Trailing Stop: เครื่องมือนี้ใช้ในการตัดสินใจเมื่อจะปิดการเทรดหรือเปลี่ยนจุดหยุดขาดทุนโดยใช้ค่า Average True Range (ATR) เพื่อปรับค่าหยุดขาดทุนตามความผันผวนของตลาด
17. Pivot Points: เป็นระดับราคาที่คำนวณจากราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด และราคาปิดของช่วงก่อนหน้า เครื่องมือนี้ช่วยในการระบุระดับการสนับสนุนและความต้านทานของราคา
18. Fibonacci Fan: เครื่องมือนี้ใช้วาดเส้นระดับการสนับสนุนและความต้านทานตามอัตราส่วน Fibonacci เพื่อช่วยในการระบุระดับการแก้ไขราคาที่เป็นไปได้
19. Donchian Channel: เครื่องมือที่ใช้ในการวัดความแรงของแนวโน้ม โดยสร้างช่องคลื่นที่คำนวณจากค่าสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลาที่กำหนด
20. Aroon Indicator: เป็นตัวชี้วัดที่ใช้วัดความแรงและทิศทางของเทรนด์ ช่วยในการระบุระดับเวลาที่เทรนด์อาจจะเปลี่ยนทิศ
21. Supertrend: เครื่องมือที่ใช้ในการวัดแนวโน้มและช่วยในการระบุจุดเข้าซื้อหรือขายในตลาด
22. Accumulation/Distribution Line: เครื่องมือที่ใช้ในการวัดการสะสมหรือกระจายของการซื้อขายในตลาด เพื่อให้เราเข้าใจถึงการกระจายและสะสมของสัญญาณการซื้อขาย
23. Average Directional Movement Index (ADX): เครื่องมือที่ใช้วัดความเข้มของเทรนด์ ช่วยให้เราระบุว่าตลาดอยู่ในสภาวะแนวโน้มแบบไหน
24. Keltner Channels: เครื่องมือที่ช่วยในการวัดความแปรปรวนของราคา โดยสร้างช่องคลื่นที่คำนวณจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่และค่าเบียนเท่ากัน
25. Chande Momentum Oscillator (CMO): เครื่องมือที่ใช้วัดความเร็วและแรงของการเปลี่ยนแปลงในราคา
26. On-Balance Volume (OBV): เครื่องมือที่ใช้ในการวัดการสะสมหรือกระจายของปริมาณการซื้อขาย โดยใช้ราคาปิดของแต่ละวัน
27. Moving Average Ribbon: เครื่องมือที่ใช้ในการวาดเส้นเคลื่อนที่เฉลี่ยในรูปแบบหลายระดับเพื่อช่วยในการระบุแนวโน้ม
28. Relative Strength Index (RSI): เครื่องมือที่ใช้ในการวัดความแรงของราคา ช่วยในการระบุสภาวะที่ราคามีแนวโน้มเกินไปหรือตกลงเกินไป
29. Price Rate of Change (ROC): เครื่องมือที่ใช้วัดความเปลี่ยนแปลงในราคาในระยะเวลาที่กำหนด
30. Trix (Triple Exponential Average): เครื่องมือที่ใช้ในการวัดความเร็วของการเปลี่ยนแปลงในเคลื่อนที่เฉลี่ยของราคา
นี่คือบางส่วนของอินดิเคเตอร์ที่ใช้ในการเทรด Forex ที่ยอดนิยม โดยการใช้เครื่องมือเหล่านี้อาจช่วยให้คุณประเมินแนวโน้มของตลาดและตัดสินใจการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ขอให้จำไว้ว่าการใช้อินดิเคเตอร์ควรเป็นส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์ที่รอบคอบและควรใช้ร่วมกับการศึกษาและการวิเคราะห์อื่น ๆ เพื่อให้คุณทำการตัดสินใจที่รอบคอบและมีความเหมาะสมในการเทรด Forex